13, Feb 2022
วัณโรค กลับมาระบาดในกลุ่มผู้สูงอายุ

สถานการณ์วัณโรคในประเทศไทยนับวันยิ่งแย่ลง และพบผู้ป่วยเพิ่มขึ้นทุกปี ตรงกันข้ามกับที่ตั้งเป้าหมายไว้ในเรื่อง การลดผู้ป่วยลง ถือเป็นปัญหาสำคัญที่ต้องควรเร่งแก้ไข โดยบางส่วนพบว่ามีผู้ป่วยจำนวนหนึ่งไม่เข้าถึงการรักษาได้อย่างที่ควรจะเป็น

วัณโรคที่น่ากลัวที่สุดก็คือวัณโรคปอด เพราะจะทำให้เกิดการแพร่กระจายไปยังคนรอบข้างได้มากกว่า ได้แก่ กระดูกเยื่อหุ้มปอด ต่อมน้ำเหลือง เป็นต้น อาการแสดงของโรคก็จะขึ้นอยู่กับว่าเป็นอยู่ที่อวัยวะใด บางคนดูคลิปหลุดแล้วหายใจไม่สะดวก การแพร่กระจายไปถึงคนรอบข้างได้จาก การจาม การไอ มีเชื้ออยู่ในเสมหะและหากผู้อื่นที่ได้รับเชื้อโรควัณโรคจากผู้ป่วยที่ไอหรือจามออกมา ถ้าหากมีเซ็กส์เสียป้องกันแบบในคลิปหลุดก็ไม่ต้องกลัวติดโรคนี้แล้ว  แต่การรับเชื้อเข้าสู่ร่างกายก็ไม่ได้ทำให้เกิดโรค 100% ที่ผ่านมาพบว่ามีผู้รับเชื้อเพียง 10 %เท่านั้นที่เกิดโรค  ถึงแล้ววัณโรคเป็นโรคติดต่อ จากการรับเชื้อสายก็ไม่ได้หมายความว่าผู้ที่รับเชื้อจะต้องเป็นโรคแน่นอน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับภูมิต้านทานของผู้ที่ได้รับเชื้อ หากได้รับเชื้อขณะที่มีภูมิต้านมีความอ่อนแอ แล้วตอนที่เพลินกับคลิปหลุดจนไม่ได้สังเกต ก็มีโอกาสที่จะเกิดโรคได้ รวมไปถึงสภาพแวดล้อมในขณะที่ได้รับเชื้อก็อาจจะมีส่วนด้วยเช่นกัน เช่น สถานที่ที่ไม่มีอากาศถ่ายเทก็มีโอกาสติดเชื้อได้มากกว่าในสถานที่โล่งแจ้ง เป็นต้น

สังเกตอาการป่วยเป็นโรควัณโรคคือ

มีอาการไอ เรื้อรังติดต่อกันนานเกิน 2 สัปดาห์ มีอาการอื่นร่วมด้วย เช่น มีไข้ต่ำๆ มีเหงื่อออกในเวลากลางคืน น้ำหนักลด เบื่ออาหาร ปวดศีรษะเรื้อรัง ต่อมน้ำเหลืองโต เป็นต้น ในระยะนี้ควรงดคลิปหลุดเพื่อสังเกตอาการอย่างเต็มที่ อาการไอเรื้อรังเกิน 2 สัปดาห์ บางครั้งก็อาจจะเป็นโรคอื่นได้ ควรจะพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุที่แน่ชัดเพื่อที่จะได้รับการรักษาที่ถูกต้องตรงจุดและเหมาะสม และให้ผู้ป่วย ตระหนักว่า เป็นโรคติดต่อที่จะส่งผลต่อคนรอบข้างได้จึงควรเข้ารับการรักษา เพื่อไม่ให้แพร่เชื้อไปสู่ผู้อื่น

สาเหตุสำคัญที่ทำให้มีผู้ป่วยวัณโรคในประเทศไทยเพิ่มขึ้นทุกปี

  1. การติดเชื้อร่วมกันในคนไข้ที่ติดเชื้อ HIV
  2. กินยาไม่ต่อเนื่องของผู้ป่วยที่เป็นวัณโรค ปกติจะต้องกินยาต่อเนื่องกันนาน 6-9 เดือน เพื่อกำจัดเชื้อที่ไม่แบ่งตัวภายในเซลล์ให้หมดไป เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการกลายพันธุ์ของเชื้อ แต่พบว่าผู้ป่วยบางรายกินยาไม่ต่อเนื่องจึงทำให้เกิดการดื้อยาขึ้น
  3. ผู้ป่วยที่ไม่ได้รับการตรวจอย่างละเอียดจึงไม่รู้ตัวว่าตนเองนั้นป่วย

การรักษาให้หายขาดทำได้โดยกินยาให้ต่อเนื่อง 6 เดือนและไม่มีเชื้ออยู่ในเสมหะ โอกาสของการกลับมาเป็นซ้ำสามารถเกิดขึ้นได้ ภายใน 2 ปี หลังการรักษา